เลขนัยสำคัญ
เลขนัยสำคัญ (significant figure) คือ จำนวนหลักของตัวเลขที่แสดงความเที่ยงตรงของปริมาณที่วัดหรือคำนวณได้ ดังนั้นตัวเลขนัยสำคัญจึงประกอบด้วยตัวเลขทุกตัวที่แสดงความแน่นอน (certainty) รวมกับตัวเลขอีกตัวหนึ่งที่แสดงความไม่แน่นอน (uncertainty) ซึ่งขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่เราเลือกใช้ด้วย
แนวปฏิบัติในการใช้เลขนัยสำคัญ
แก้ไข- ตัวเลขที่ไม่ใช่ 0 (ศูนย์) เป็นเลขนัยสำคัญ เช่น
- 845 มีเลขนัยสำคัญ 3 ตัว
- 2.754 มีเลขนัยสำคัญ 4 ตัว
- เลข 0 (ศูนย์) ที่อยู่ระหว่างตัวเลขถือเป็นเลขนัยสำคัญ เช่น
- 409 มีเลขนัยสำคัญ 3 ตัว
- 50,802 มีเลขนัยสำคัญ 5 ตัว
- เลข 0 (ศูนย์) ที่อยู่ทางซ้ายของตัวเลขที่ไม่ใช่ศูนย์ ไม่ถือเป็นเลขนัยสำคัญ จุดมุ่งหมายก็เพื่อแสดงตำแหน่งของจุดทศนิยม เช่น
- 0.03 มีเลขนัยสำคัญ 1 ตัว
- 0.00006972 มีเลขนัยสำคัญ 4 ตัว
- เมื่อตัวเลขมีค่าเท่ากับหรือมากกว่า 1 เลข 0 (ศูนย์) ที่เขียนทางขวามือถือเป็นเลขนัยสำคัญ เช่น
- 1.0 มีเลขนัยสำคัญ 2 ตัว
- 57.074 มีเลขนัยสำคัญ 5 ตัว
- 6.080 มีเลขนัยสำคัญ 4 ตัว
- แต่ถ้าตัวเลขมีค่าน้อยกว่า 1 เลข 0 (ศูนย์) ที่อยู่ท้ายตัวเลขและอยู่ระหว่างตัวเลขถือเป็นเลขนัยสำคัญ เช่น
- 0.040 มีเลขนัยสำคัญ 2 ตัว
- 0.2005 มีเลขนัยสำคัญ 4 ตัว
- 0.000136 มีเลขนัยสำคัญ 3 ตัว
ตัวเลขนัยสำคัญกับการคำนวณ
แก้ไขการบวกและการลบ
แก้ไขในการบวกและลบ จะคงเหลือจำนวนเลขทศนิยมไว้ให้เท่ากับจำนวนเลข ที่อยู่หลังจุดทศนิยมที่มีจำนวนน้อยที่สุด เช่น
- 20.2 + 3.0 + 0.3 = 23.5 (ทศนิยมน้อยที่สุดคือ 1 ตำแหน่ง)
- 2.12 + 3.895 + 5.4236 = 11.4386 ในที่นี่ตัวเลขที่มีตำแหน่งทศนิยมน้อยที่สุดคือ 2 ตำแหน่ง ดังนั้นคำตอบคือ 11.44 (การปัดเศษถ้ามีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 5 ให้ปัดขึ้น)
การคูณและการหาร
แก้ไขในการคูณและการหาร ผลลัพธ์ที่ได้จะมีจำนวนตัวเลขนัยสำคัญที่น้อยที่สุด ของตัวเลขที่นำมาคูณหรือหาร เช่น
- 21.1 x 0.029 x 83.2 = 50.91008 (0.029 มีเลขนัยสำคัญน้อยที่สุดคือ 2 ตำแหน่ง) ดังนั้นคำตอบคือ 51