รอบรู้เรื่องนกกระจอกเทศ/วิธีการผสมพันธุ์

วิธีการผสมพันธุ์

แก้ไข
นกกระจอกเทศเพศผู้จะแสดงอาการเป็นสัด โดยการนั่งลงบนพื้นด้วยข้อเข่า แล้วกางปีกทั้งสองข้างออกโบกขึ้นลง
ขณะเดียวกันหัวก็จะโยกไปตามจังหวะของการโบกปีก ส่วนตัวเมียจะแสดงอาการเป็นสัด โดยกางปีกออกสั่น แต่ไม่เหมือนตัวผู้

เมื่อนกกระจอกเทศตัวเมียนั่งบนพื้น หัวและคอจะทอดยาวไปตามพื้น แต่จะมีบางตัวที่ชูหัวตั้ง แล้วตัวผู้จะขึ้นค่อมบนหลังตัวเมีย เพื่อสอดใส่อวัยเพศเข้าไปทางก้นของตัวเมีย ซิ่งใช้เวลาไม่เกิน 3 นาทีเท่านั้น

แต่ถ้าหากเลี้ยงนกกระจอกเทศเพศผู้และเพศเมียรวมกัน ก่อนถึงฤดูผสมพันธุ์ ควรแยกตัวผู้ออกจากฝูงตัวเมีย

โดยไม่ให้ตัวผู้เห็นตัวเมียเลย เพราะจะทำให้ฮอร์โมนเพศผู้สูงขึ้น ทำให้การผสมพันธุ์ติดดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามการที่นกกระจอกเทศจะให้ผลิตมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับ
1.อาหารมีคุณภาพและเหมาะสม
2.ความสมบูรณ์ของนก
3.อุณหภูมิและสิ่งแวดล้อม
ส่วนข้อพิจารณาความเหมาะสมของคู่พันธุ์ ควรพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้
1.ปริมาณไข่ต่อปี
2.อัตราของไข่มีเชื้อ
3.อัตราการฝักออกเป็นตัว
4.อัตราการตายของลูกนก
อาหารนกกระจอกเทศ
1.อาหารข้น
อาหารข้นเป็นอาหารที่ให้กับนกกระจอกเทศเพื่อให้สารอาหารที่ครบสมบูรณ์เนื่องจากอาหารข้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าหญ้าเมื่อเทียบในปริมาณที่เท่ากันโดยอาหารข้นมีส่วนผสมของลำ ปรายข้าว ข้าวโพด กากถั่วเหลือง กากปาล์ม ปลาป่น กากมะพร้าว ฯลฯ อย่างใดอย่างหนึ่งมาผสมกันหรือทั้งหมด และผสมพวกแร่ธาตุ วิตามิน กรดอะมิโนต่างๆ ลงไปด้วย
อาหารข้นมี 2 แบบ
1.1อาหารข้นที่ผสมเอง เป็นหัวอาหารเข้มข้นที่ทำมาจากเมล็ดพืชหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์และอาหารเสริม มาผสมทำให้ได้อาหารที่มีค่าทางโภชนาการที่เข้มข้น เมื่อจะให้นกกระจอกเทศต้องนำมาผสมกับอาหารหยาบเพื่อเจือจางอาหารก่อน
1.2อาหารข้นแบบสำเร็จรูปเป็นอาหารที่ประกอบด้วย อาหารหยาบ อาหารข้น อาหารเสริมผสมกันแล้วทำการอัดเม็ด บรรจุกระสอบเพื่อจำหน่าย
2.อาหารหยาบ
อาหารหยาบ ได้แก่ พวกหญ้าและผักต่างๆ ซึ่งเป็นอาหารหลักของนกกระจอกเทศ หญ้าที่นิยมนำมาเลี้ยง คือ หญ้าขน หญ้ารูซี่ นอกจากนี้ยังมีพืชตระกูลถั่ว กระถิ่น และใบกระเพรา โดยก่อนจะนำหญ้าและพืชผักต่างๆ มาให้นกกระจอกเทศกินต้องนำมาแช่ด่างทับทิม และสับเป็นท่อนขนาดไม่เกิน 2 นิ้วก่อน
3.น้ำ
น้ำสำหรับนกกระจอกเทศควรตั้งให้สามารถกินได้ตลอดเวลา และต้องเป็นน้ำที่สะอาด ไม่ใช่น้ำเค็มหรือน้ำที่มีความเป็นกรดหรือด่างมากเกินไป ส่วนปริมาตรน้ำที่ให้ควรขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หรือชนิดของอาหารที่นกกระจอกเทศกินวันนั้น
นอกจากนี้แล้วต้องจัดหาเม็ดกรวด หรือหินเกล็ดขนาดเล็กๆ ไว้สำหรับนกกระจอกเทศกินด้วยเนื่องจากนกกระจอกเทศไม่มีฟัน จึงจำเป็นต้องใช้สิ่งทดแทนที่ช่วยในการย่อยในกระเพาะอาหาร