ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ส่วนที่ 2 เทคนิคและเรื่องควรรู้ในการปลูกบ้าน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Gurunewt (คุย | ส่วนร่วม)
County sight see Departitioning ...Token-files
บรรทัดที่ 2,380:
นั้นได้ อย่าวางกระบะต้นไม้ที่ต้องเอื้อมตัวนอกตึกมากนัก หรือต้อง
ใช้บันไดพาดไปทำงาน (บนตึกชั้นที่ 20)
 
===== อยากปลูกต้นไม้ในบ้านให้ถูกกายสบายใจ ต้องเตรียมอะไรก่อน =====
เวลาปลูกบ้านเสร็จจะมีเศษหิน เศษทรายกองอยู่ในบริเวณที่จะ
เป็นสนามหญ้าหรือที่คุณคิดจะปลูกต้นไม้เต็มไปหมด ซึ่งหาก
ปล่อยทิ้งไว้ไม่ขุดหรือขูดออกเวลาคุณปลูกต้นไม้ก็ไม่งอกงาม เวลา
เดินเล่นในสนามหญ้าก็อาจมีเศษหินมาตำเท้าได้...อย่าลืมควบคุม
และบอกให้ผู้ก่อสร้าง ทำความสะอาดเสียนะครับ
 
* '''เลือกวัสดุปูพื้นอะไรดี'''
วัสดุปูพื้นบ้านเราอาจแยกใหญ่ ๆ ได้เป็น 5 -6 ประเภท วัสดุ
เหล่านี้แต่ละอย่าง จะมีจุดเด่น จุดด้อยต่างกัน และมักเป็นปัญหา
ไม่จบสิ้นสำหรับท่านเจ้าของบ้านว่าจะเลือกอะไรดี?
 
'''1. พื้นไม้จริง''' เป็นของธรรมดาพื้นบ้านมานมนากาเล แต่
ปัจจุบันกลายเป็นความใฝ่ฝันที่หลายคนอยากมี แต่ก่อน
จะวางพื้นไม่บนตงและคานทำหน้าที่เป็นโครงสร้างไป
ด้วย แต่ส่วนใหญ่ตอนนี้มักจะปูบนพื้นคอนกรีตอีกที (ซึ่ง
ต้องระมัดระวังวิธีกรรมในการปูให้ถูกต้อง ต้องมีการวาง
ระแนงไม้ฝังในคอนกรีตและสูงกว่าผิวคอนกรีตประมาณ 2
ซม. เพื่อความยืดหยุ่นและไม่โก่งงอจากการอัดเข้าลิ้น
ภายหลัง) ราคาพื้นไม้นี้จะแพง แต่ให้ความรู้สึกดีมาก
 
'''2. พื้นปาเก้''' คือชิ้นไม้เล็ก ๆ ที่ปูบนพื้นคอนกรีต มีทั้งแบบ
เข้าลิ้นรอบ และไม่เข้าลิ้น ราคาจะถูกกว่าพื้นไม้ธรรมดา สิ่ง
ที่ต้องระวังในการปูก็คือคอนกรีตจะต้องแห้งสนิทพร้อม
ทำกันซึมไว้ด้วย กาวจะต้องดี ปูปาเก้แล้วต้องทิ้งไว้นานๆ
เพื่อให้กาวแห้งก่อนขัดพื้นและต้องไม้อัดแผ่นปาเก้แน่น
เกินไป ไม่เช่นนั้นอาจโก่งงอระเบิดได้
 
'''3. กระเบื้องเคลือบ''' ราคาจะมีตั้งแต่ตารางเมตรละ 200 บาท
จนถึง 5,000 บาทแล้ว แต่ชนิดของกระเบื้อง ใช้ปูบน
พื้นคอนกรีตที่ไม่จำเป็นต้องแห้งสนิท แต่ต้องกันซึมไว้
เรียบร้อย การปูกระเบื้องเล่นลายเป็นสิ่งที่ต้องระวังมาก
เพราะกระเบื้องแต่ละแผ่น แต่ละยี่ห้อจะมีขนาด – ความ
หนาไม่เท่ากัน ทำให้น่าเกลียดกว่าที่ออกแบบไว้มากที่
เดียว ปัญหาของการปูกระเบื้องก็คือกระเบื้องมักขาดตลาด
(ในลายที่ต้องการ) และหากเสียหายแตกหักภายหลัง จะหา
อะไหล่มาทดแทนไม่ได้ (ควรเก็บสต็อคกระเบื้องที่ใช้ไว้
บ้าง)
 
'''4. หินอ่อน หรือแกรนิต''' เป็นของที่นิยมใช้กันมากขึ้น
เพราะราคาเริ่มใกล้เคียงกับวัสดุปูพื้นอย่างอื่น สิ่งที่ต้อง
ระวังคือการเตรียมพื้นผิวจะต้องเผื่อระดับปูนทรายไว้ให้
หนา (ประมาณ 2 – 3 ซม.) ไม่เช่นนั้นพื้นหินอ่อนจะ
ปรับระดับไมได้ และต้องคิดไว้เสมอว่า หินอ่อนเป็นของ
ธรรมชาติซึ่งคุณจะเลือกลายดังใจนึกไม่ได้ และอย่าปูหิน
อ่อนตากแดด ไม่เช่นนั้นจะเป็นฝ้าเป็นฟางหมด
 
'''5. พื้นพรม''' เป็นวัสดุที่สวย นุ่มนวล ไม่แพงนัก หรูหรา ติดตั้ง
ง่าย แต่บำรุงรักษายาก และมีอายุการใช้งานสั้น หากต้องการ
เปลี่ยนบรรยากาศบ่อยๆ หรือเร่งงานก่อสร้าง พรมเป็นวัสดุ
ที่น่าใช้ทีเดียว
 
'''6. กระเบื้องยาง''' เป็นสิ่งสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ มีทั้งเป็น
แผ่นเล็ก ๆ และเป็นผืนใหญ่ ทนทานดีทีเดียวเมื่อเทียบ
กับราคา บำรุงรักษาไม่ยากนักแต่ให้ความรู้สึกที่เป็น
สำนักงานมากไปหน่อย ปรับเปลี่ยนง่าย แต่ต้องระวังให้ดี
ว่าพื้นผิวที่เตรียมไว้ปูกระเบื้องยางจะต้องเรียบดีเป็น
ระดับต้องแห้งและกันซึม ไม่เช่นนั้นเมื่อใช้งานแล้วจะ
เป็นหลุม หรือหลุดร่อน
 
ปาเก้บ้านคุณขัดแล้วดูเป็นลอนน่าเกลียดหรือเปล่า
หากปาเก้ที่บ้านคุณดูเป็นลอนน่าเกลียด แม้ว่าคุณสั่งให้ช่างขัด
ปาเก้ให้แล้วตั้ง 2 – 3 ครั้ง (และช่างก็พยายามอย่างที่สุดแล้ว) เราขอ
แนะนำว่า...คุณไม่น่าจะไปขัดมันอีกเพราะสภาพไม้และฝีมือช่าง
ในปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว อาจต้องมาแก้ที่ปลายเหตุว่าสีที่คุณทา
พื้นนั้นเป็น “มันวาว” หรือเปล่าหากใช้แลคเกอร์หรือโพลียูริเทน
มันทาพื้น ก็ขอให้เปลี่ยนเป็นวานิชหรือยูริเทนชนิดด้าน (ไม่
เงา) แทน จะเป็นการลดแสงสะท้อนลง ทำให้พื้นของคุณดูเรียบ
ไม่เป็นลอนได้
 
* '''หินอ่อนเป็นฝ้าเป็นฝาง แก้ไขอย่างไรดี'''
หากหินอ่อนเป็นฝ้าไม่ต้องเสียเวลาเช็ดถู ไปจ้างช่างหินอ่อนเขา
มาขัดหน้าใหม่ และเมื่อขัดเสร็จแล้วก็ระวังหน่อยว่าไม่ให้ฝุ่นเกาะ
หรือเดินด้วยรองเท้าที่มีฝุ่นมาก ไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรงมาก
เกินไป เพราะไม่อย่างนั้นเจ้าหินอ่อนมันก็จะเป็นฝ้าเป็นฟาง
ใหม่ละครับ
 
* '''ผนังรั่วแล้วออกไปซ่อมไมได้ จะแก้ไขยังไงดี'''
บ้านหรือห้องแถวหลายหลังที่อยู่ติดกับที่ดินคนอื่น อาจอยู่ใน
สภาพที่ไม่สามารถออกไปข้างนอกดูแลบำรุงรักษาได้ หรืออาคารที่
มีความสูงมาก การบำรุงรักษาจากภายนอกลำบาก หรืออาคารทั่วไป
หากมีปัญหาว่าผนังรั่วจากภายนอกออกไปซ่อมแซมรักษาไม่ได้
หรือพยายามแก้ไขมาหลายครั้งแล้วแต่แก้ไม่ได้ ขอแนะนำให้
ดำเนินการดังนี้
 
'''ทำผนังภายในขึ้นมาอีก 1 ชั้น''' ทำพื้นระหว่างผนังทั้งสองให้ลาด
เอียง แล้วเจาะรูให้น้ำไหลออก (ดูภาพประกอบ) จะแก้ไข (แบบน้ำ
ขุ่น ๆ) ได้ทันที
 
'''จับเซี้ยม จับฉาก จับปุ่ม คืออะไร''' (แถมวิธีก่ออิฐให้ร้าว)
การจับเซี้ยมจับฉากจับปุ่มเป็นกรมวิธีจัดเตรียมระดับ – ระยะก่อน
การฉาบปูนลักษณะเป็นปุ่มปูนทรายที่แสดงถึงแนวเส้นของ
ผนัง หรือมีระนาบแบนให้เห็นความหนาของผิวปูนที่จะฉาบลง
ไป การฉาบปูนที่ถูกกรมวิธี ช่างปูนจะต้องจับเซี้ยม – จับฉาก –
จับปุ่มก่อนที่จะฉาบปูนเสมอ...หากท่านเห็นว่าช่างปูนใดฉาบ
ผนังบ้านท่านโดยไม่ทำเซี้ยม – ฉาก – ปุ่มเสียก่อน ก็น่าจะบอกผู้
ก่อสร้างให้เปลี่ยนช่างปูนได้แล้ว
 
===== การก่ออิฐที่ถูกกรมวิธีนั้นจะต้องดำเนินการดังนี้ =====
 
# อิฐจะต้องชุบน้ำให้ชุ่มน้ำเสียก่อน ไม่เช่น อิฐจะดูดซึมน้ำปูน จนปูนก่อไม่ทำหน้าที่ยึดเกาะที่ดี
# การก่ออิฐจะต้องไม่ก่อสูงมากนักในทีเดียว จะต้องทิ้งไว้ให้ปูนก่อยุบตัวลงมาแล้วจึงก่อต่อไปจนหมด และทิ้งช่องว่างระ หว่างผนังกับท้องพื้นด้ำนบ นไว้หน่อยก็จยิ่งดีภายหลังเมื่อผนังทรุดตัวดีแล้วจึงก่ออิฐก้อนสุดท้ายได้
# เมื่อก่ออิฐเสร็จแล้วต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 1 วันให้ผนังอยู่ตัวและความร้อนจากปูนก่อเย็นตัวลง จึงเริ่มจับเซี้ยมจับฉากจับปุ่ม แล้วฉาบปูน
# การฉาบปูนต้องมีส่วนผสมที่ดี และน่าผสมน้ำยาเคมีประสานพิเศษกันแตกและห้ามฉาบปูนหนาเกินไปเพราะความร้อนของปูนชั้นในจะระเหยดันออกมายังชั้นนอก และทำให้ปูนฉาบนั้นแตกได้
# การฉาบปูนที่ดี ไม่น่าใช้ฟองน้ำที่แห้งเกินไป เพราะจะดูดน้ำปูนออกจากปูนฉาบ หากมีงบประมาณเพียงพอ น่าให้ใช้วิธี “ปั่นแห้ง” ซึ่งช่างประเภทนี้กำลังจะหมดจากประเทศไทยเราแล้ว
# หากผิวปูนฉาบมีรอยแตกคลายลายงา ไม่ใช่เรื่องที่คอขาดบาดตาย ทิ้งเอาไว้สักพักแล้วใช้ทาสีแต่ง (โป๊ว) ลงไป ผิวแตกลายงานั้นจะหายไปเอง
* '''เลือกกระเบื้องห้องน้ำทั้งพื้น และผนัง ต้องยี่ห้อ – รุ่นเดียวกัน'''
เป็นเรื่องแปลกแต่จริงของวงการผลิตกระเบื้องบ้านเรา ที่แต่ละ
ยี่ห้อ และแต่ละรุ่น (แม้จะยี่ห้อเดียวกัน) จะมีขนาดไม่เท่ากัน ถึง
แม้แต่ยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกัน – สีเดียวกัน แต่เผากันคนละครั้ง
ขนาดก็อาจไม่เท่ากันได้
 
เพื่อป้องกันปัญหาของแนวกระเบื้องพื้น และแนวกระเบื้องผนัง
(ที่เลือกขนาดกระเบื้องขนาดเท่ากัน) ไม่ตรงแนวกัน ...ในการ
เลือกกระเบื้องน่าจะเลือกกระเบื้องผนังและกระเบื้องพื้นที่ยี่ห้อ
เดียวกันและรุ่นเดียวกันเสมอ แต่ก็ควรระวังอย่าใช้กระเบื้องที่ใช้
สำหรับปูผนังอย่างเดียวมาปูพื้น เพราะจะลื่นหกล้มง่าย (ส่วนการ
เอากระเบื้องพื้นมาปูผนังไม่เป็นไร
* '''กระจกมีกี่ชนิด แล้วจะเลือกใช้อย่างไร'''
กระจกมีหลายชนิดแน่นอนแต่หากเราจะแบ่งความแข็งแรงของ
กระจกเพื่อการใช้งานให้ถูกที่และไม่บินลงมาทำอันตราย ก็น่าจะ
แบ่งออกได้เป็น 4 ชนิดคือ
 
'''1. กระจกธรรมดา''' หรือที่เรียกภาษาเทคนิคว่า Anneal Glass
เวลาแตกจะเป็นปากฉลามซึ่งอันตราย แต่ยังโชคดีที่รอยแตกจะวิ่ง
เข้าสู่กรอบทำให้ส่วนใหญ่ไม่หล่นลงมาโดยทันที่ทันใด มองจาก
ภายนอกไม่เป็นลอนดูเรียบสวยงาม
 
'''2. กระจก''' Tempered คือเอากระจกธรรมดาทำให้ร้อนเกือบ
หลอมละลายใหม่ แล้วทำให้เย็น จะเป็นการเพิ่มความแข้งแรง
เวลาแตกจะแตกกระจายเม็ดเล็กๆ ไม่เป็นอันตรายมาก แต่จะไม่มี
รอยแยกวิ่งเข้ากรอบทำให้เมื่อแตกแล้วจะร่วงหล่นลงมาทันที ดู
จากภายนอกจะเป็นลอนเล็กน้อยจึงดูหลอกตาในบางมุม
 
'''3. กระจก''' Heat Strengthen จะคล้ายกับกระจกสองอย่างแรก
ปนกัน โดยนำกระจกธรรมดามาให้ความร้อน (แต่ไม่ถึงขนาด
Tempered Glass) จึงมีความแข็งแรงมากขึ้น (ไม่เท่ากับ
Tempered) เวลาแตกจะแตกแบบ Float มองดูภายนอกเป็นลอน
บ้างบางครั้งแต่ไม่มาก
 
'''4. กระจก''' Laminated ซึ่งความจริงไม่น่าจะเปรียบเทียบกับ
กระจกทั้ง 3 อย่างแรก เพราะไม่ใช่แตกต่างกันที่วิธีผลิต แต่เป็น
การเอากระจก (อะไรก็ได้) มารีดประกบติดกันด้วยแผ่นฟิล์ม ทำให้
เกิดความแข็งแรงมากขึ้น เวลาแต่...แผ่นฟิล์มจะทำหน้าที่ยึดติด
ไม่ให้ร่วงหล่นลงมาได้
 
'''จากกระจกที่แบ่งตามความแข็งแรง'''ในการใช้ดังกล่าวข้างต้น ก็
อาจจะแยกกระจกออกเป็นไปตามความสวยงามหรือผ่านวิธีกรรม
อื่นๆ ได้อีกต่อไป เช่นทำให้ออกาเป็นกระจกกรองแสง กระจก
สะท้อนแสง กระจกเงา ฯลฯ .... แต่นั่นคงไม่ใช่ความสำคัญประการ
แรก เนื่องจากเราสามารถนำกระจก Float, Tempered, Heat
Strengthen, หรือ Laminated มาทำเป็นกระจกตัดแสงกระจก
สะท้อนแสงหรือกระจกเงาได้ไม่ยากนัก
* '''อะไรนะ กระจกเจียรปรี?'''
กระจกปรี คือกระจกที่ขัดขอบด้านข้างให้เอียงลาดลง (ส่วนใหญ่ทั้ง
4 ด้าน) เพื่อแสงเกิดหักเหแล้วเหมือนแก้วเจียระไน ราคาจะแพง
กว่ากระจกธรรมดาประมาณตารางฟุตละ 30 – 50 บาท แต่มีข้อควร
ระวังว่า
 
# ขอบกระจกที่เจียรแล้วจะบางมาก ติดตั้งไม่ดีจะทำให้บิ่นและแตกง่าย
# อย่าใช้มากเกินไป (แม้จะรวยมาก็ตาม) ใช้เพียงบางจุดไม่อย่างนั้นแสงจะหักเหลายตาไปหมด...อาจเป็นโรคประสาทหลอนได้ฝ้าเพดานยิบซั่มบอร์ดฉาบเรียบ ไม่น่าทำกว้างขวาง – ยาว – ใหญ่ นักหนาปัจจุบันช่างฝีมือก่อสร้างที่ดีๆ และได้มาตรฐานเมืองไทยเราขาดแคลนมากทำให้รอยการออกแบบใดๆ ที่ต้องใช้ช่างฝีมือเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่พึงหลีกเลี่ยงการติดตั้งฝ้าเพดานและการฉาบฝ้าเพดานยิบซั่มบอร์ดที่พื้นที่ขนาดใหญ่หรือยาวมาก เช่นฝ้าเพดาน
 
===== ห้องโถงขนาดใหญ่ หรือฝ้าเพดานทางเดิน =====
''Corridor'' ที่ยาวมากๆ
(มากกว่า 15 เมตร) เป็นสิ่งที่ไม่น่าทำเพราะจะเป็นลอนเป็นคลื่น
ไม่น่าดู แต่หากจำเป็นก็น่าจะออกแบบให้มีเส้นมีบัวหยุดเป็น
จังหวะเพื่อลดพื้นที่ (และความยาว) ลงบ้าง....จะลดความน่าเกลียด
ลงไม่น้อยเลย
 
'''จะติดมอบหรือบัวฝ้าเพดาน อย่าลืมโครงเคร่าไม้'''โดยรอบ
แม้ว่าคุณอาจจะกำหนดในแบบว่าฝ้าเพดานของคุณใช้โครงเคร่า
ฝ้าเพดานเป็น โครงเหล็กหรือโครงอลูมิเนียม แต่ถ้าคุณต้องการให้
ฝ้าเพดานของคุณมีมอบฝ้าเพดาน หรือบัวฝ้าเพดานติดระหว่าง
รอยต่อของผนังกับฝ้า คุณอย่าลืมบอกช่างว่าเขาต้องตีเคร่าหรือแนว
ไม้โดยรอบห้องเหนือฝ้าเพดาน เพราะไม้ตัวนี้จะเป็นตัวรองรับ
ตะปูที่ใช้ติดมอบฝ้า (บัวฝ้า) หากไม่มีไม้ตัวนี้การติดมอบฝ้าจะทำได้
ยาก และอาจต้องใช้กาวติด ซึ่งจะกระเดิดได้ง่ายหรือหากมอบฝ้านั้น
เป็นไม้ก็จะบิดงอได้ภายหลัง
* '''ห้องคุณมีเสียงก้อง...จะทำอย่างไรดี'''
ห้องทำงาน ห้องประชุม หรือบางทีก็ห้องนอนของคุณ อาจมีเสียง
“ก้อง” รบกวนการพูดจาหรือการฟังเพลงดูโทรทัศน์ ซึ่งบางทีอาจ
เป็นเพราะห้องคุณโล่งเกินไป ทั้งพื้น ผนัง และฝ้าเพดาน ..หาก
เป็นเช่นนั้นลองแก้โดยวิธีง่ายๆ โดยการติดตั้งแผ่น Acorstic
Board (แผ่นใยสังเคราะห์มีรูพรุน ช่วยเรื่องกันเสียงและความ
ร้อน) ซึ่งหาซื้อไม่ยากนักในท้องตลาด ติดเข้าที่ฝ้าเพดานหรือ
ผนังบางส่วนจะช่วยได้มากทีเดียว (การติดตั้งไม่ยากเลย สามารถทำ
ด้วยตนเองได้เพราะน้ำหนักเบา ใช้แม็กเย็บกระดาษติด เย็บติดก็
เพียงพอแล้ว)
 
* '''อย่าลืมสั่งซื้อขาวงกบห้องน้ำให้ยาว ขาวงกบห้องธรรมดา'''
หากห้องน้ำของคุณลดระดับพื้นลงต่ำกว่าห้องธรรมดา และประตู
ห้องน้ำมักจะต้องเปิดเข้าในห้องน้ำเพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นออก
นอกห้อง ในขณะเดียวกันคุณก็ (น่าจะ) ต้องการให้ระดับหลังวงกบ
หรือชอบบานประตูด้านบนของประตูคุณทุกบานในห้องอยู่ใน
ระดับเดียวกันเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและงดงาม ทำให้
ความยาว (ความสูง) ของขาวงกบคุณซึ่งวางอยู่ในห้องน้ำจะต้องยาง
กว่าขาวงกบธรรมดา ซึ่งจะยาวขึ้นเท่ากับความลึกของการลดระดับ
ห้องน้ำ เช่นห้องน้ำคุณลดระดับ 10 ซม. และวงกบทั่วไปคุณสูง
2.00 เมตร คุณต้องสั่งซื้อวงกบสำหรับห้องน้ำขนาด 2.10 เมตร
เป็นต้น
 
* '''คุณติดประตูบานเกล็ดที่ห้องน้ำผิดด้านหรือเปล่าเอ่ย'''
เชื่อหรือไม่ว่า 90% ของประตูบานเกล็ดห้องน้ำในประเทศไทย
นั้นติดผิดด้านเอาด้านในติดออกมาแทนด้านนอก เพราะไปเคย
ชินกับการติดบานเกล็ดของประตูบ้านห้องอื่น ๆ ทั่วไป เป้าหมาย
ของการติดประตูบานเกล็ดบ้าน (โดยเฉพาะด้านนอก) คือป้องกัน
น้ำฝนจากด้านนอกกระเด็นเข้ามาในบ้าน บ้านเกล็ดจึงปรับให้
หันลงออกสู่ด้านนอก แต่ประตูบ้านเกล็ดห้องน้ำมีจุดประสงค์คือ
การกันน้ำจากในห้องน้ำกระเด็นออก และป้องกันสายตาคน
สัปดนแอบดูคนในห้องน้ำ จึงทำบานเกล็ดให้หันเอียงเข้า
ภายในห้องน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำในห้องน้ำกระเซ็นออกมา และคน
สัปดนจะก้มลงดูเหตุการณ์ภายในห้องน้ำไม่ได้ ลองดูห้องน้ำบ้าน
คุณสักนิดเถอะครับว่าติดผิดหรือเปล่า...เอหรือคุณก็เป็นอีกคน
หนึ่งที่ชอบทำอะไร Sexy ที่หน้าประตูห้องน้ำ
ประตูหน้าต่าง Aluminium มีสีอะไรบ้าง และราคาเป็นอย่างไร
กรอบประตูหน้าต่างอลูมิเนียมสามารถแยกได้เป็น 5 ชนิดสีด้วย
และแยกราคาตามความถูกแพงได้ดังต่อไปนี้
 
# สีขาว หรือสีธรรมชาติ (Code NA) ราคาถูกที่สุด
# สีชา หรือ สีทอง (Code 512) ราคาแพงขึ้น 10 %
# สีน้ำตาล หรือ สีทองอมดำ (Code 514) ราคาแพงขึ้นกว่า 512อีก 10%
# สีดำ (Code 517) ราคาแพงกว่า 514 อีก 10%
# สีหลากสี ยกเว้นจากที่กล่าวมาข้างต้น ราคาจะแพงขึ้นจาก517 ประมาณ 50 % เพราะต้องใช้กรรมวิธีพิเศษในการอบสี
 
* '''ไม้เต็งมาเลย์ทำวงกบได้ไหมเอ่ย'''
ไม้เต็งมาเลย์หรือไม้เนื้อแข็งมาเลย์ (ที่ยังไม่ผ่านการอบอัดอย่างถูก
วิธี) เป็นไม้ที่ไม่น่าจะใช้ทำวงกบประตูหน้าต่างโดเด็ดขาด เพราะ
จะ “ยืดหดและบิดงอ” เนื่องจากสภาพเมืองมาเลย์หรือภาคใต้นั้น
อากาศจะชื้นและฝนตกมาก ต้นไม้รับน้ำหนักมากจะกลวง – นิ่ม –
ยืดหดง่าย ต่างกับเต็งหรือไม้เนื้อแข็งอีสานบ้านเฮา ที่แห้งแล้ง
เหลือเข็น (แม้จะมีโครงการอีสานเขียวแล้วก็ตาม) ต้นไม้จะโตช้า
และจะแน่น – แกร่งดีจ้ะ
 
ประตูบานเลื่อนสวนกัน ไม่จำเป็น...อย่าใช้เพราะอะไร
ประตูบานเลื่อนสวนกัน นอกจากประโยชน์ที่ทำให้การตกแต่ง
ภายในสามารถขยบได้บ้างแล้ว ก็ดูเหมือนไม่มีประโยชน์อื่นอีกเลย
...แต่สิ่งที่ไม่ดีก็คือ
 
# ราคาแพง
# ไม่แข็งแรง โดยเฉพาะ
# เปิดรับลมได้เท่ากับบานเลื่อนที่เลื่อนได้ข้างเดียว (อีกข้างเป็นกระจกติดตาย)
# ถ้ามีบานมุ้งลวดด้วย อาจทำให้วงกรอบประตูหนากว่าผนังก่ออิฐปกติดูตลก
'''
ทำไม...ขอบวงกบประตูหน้าต่างมักจะมีรอยแตกร้าว'''
ปัญหานี้เป็นปัญหาคู่วงการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไรยุคไหน ที่
ขอบวงกบมักจะมีรอยร้าวประดับทั่วไป ปัญหาน่าจะเกิดจากเหตุ
ดังต่อไปนี้
 
'''1. ไม่มีเสาเอ็น – ทับหลัง''' (เสาและคานคอนกรีตเล็กๆ) รัดรอบ
ช่องเปิดเพื่อป้องกันการยืดหดตังของวงกบ ไม่กระทบกับผนังก่อ
อิฐ
 
'''2. หากเป็นผนังคอนกรีต''' (ไม่ใช่ผนังก่ออิฐ) จึงไม่ต้องมีเสา
เอ็น – ทับหลังฉาบปูน แล้วก็ยังแตกร้าว อาจเป็นเพราะไม่มีเหล็ก
ขวางที่มุมกันแตกก็ได้
 
'''3. ไม้วงกบมีขนาดเล็กเกินไป''' เมื่อกระทบกบเสาเอ็น – ทับ
หลังที่มีขนาดโตเกือบเท่าขนาดไม้วงกบ ทำให้บริเวณเสาเอ็น –
ทับหลังนั้นมีปูนฉาบบางกว่าปูนฉาบของผนังทั่วไป
 
'''4. ไม่ได้ผสมน้ำปูนขาว''' หรือน้ำยาเคมีกันแตกร้าวในปูนฉาบ
ดาดฟ้ารั่ว แก้ไขอย่างไร?
 
'''หากดาดฟ้ารั่ว ข้อหน้าข้อแรกก็คืออย่าเทปูนทับ'''หน้าลงไปอีก
เพราะนั่นไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา (แต่จะสร้างปัญหามากขึ้นเพราะ
ยังรั่วเหมือนเดิมและเพิ่มน้ำหนักให้โครงสร้างโดยไม่จำเป็น)
ลองเอาน้ำราดพื้นดาดฟ้า (ตอนแดดออก) ดูว่ามีรอยแตกที่พื้น
ดาดฟ้าหรือเปล่า ถ้ามีก็แสดงว่านั่นเป็นช่องที่น้ำเล็ดรอดลงไป
ข้างล่าง หากไม่มีก็น่าจะเกิดจากรอยต่อตรงขอบของผนังดาดฟ้า
(ซึ่งน่าจะมีรอยแสดงไว้) ....ลองเอาฟลิ้นโคทยาแนวแตกเหล่านั้นดู
แล้วขังน้ำ หากน้ำไม่รั่วแล้ว ก็มั่นใจว่าหาที่มาได้ ...แต่อย่าเพิ่งหยุด
แค่นั้น ต้องทำอย่างอื่นต่อไป โดยกาเรียกบริษัททำระบบกันซึม
(อย่าใช้ผู้รับเหมาธรรมดา) มาทำระบบกันซึมให้ระบบกันซึมนี้จะ
มีทั้งน้ำยาทาและแผ่นยางบางๆ วางซ้อนทับกันหลายชั้น...แล้วจะ
เทปูนทับหน้าเพื่อเข้าใช้ดาดฟ้าสะดวกขึ้นหรือไม่ก็สามารถทำได้
ภายหลัง หรือจะใช้แผ่น Solar Slab ปูทับไปก็แล้วแต่เลือก
ท่านรู้หรือเปล่าว่า...หลังคาเหล็กที่พังกันลงมาเป็นบ่อยๆ
นั้น'''เกิดจากเหตุไหนบ้าง'''
 
* '''โดยทั่วไปหากวิศวกรโครงสร้างออกแบบไม่ผิด'''
'''โครงสร้างหลังคา'''
เหล็กทั้งหลายเมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วโอกาสจะพังลงมานั้น
น้อยมาก แต่ส่วนใหญ่มักจะพังลงมาตอนที่กำลังก่อสร้าง
เหตุสำคัญก็เพราะวิศวกรผู้ออกแบบ อาจจะออกแบให้โครงสร้างนี้
อยู่ได้เมื่อก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว การยึดติดระหว่างโครงสร้าง
มั่นคงและช่วยกันทำงานเช่นโครงทรัสท์ (Trust), แป, Tied
Rod, แลกระเบื้อง เป็นต้น หากผู้ก่อสร้างไม่ได้ศึกษาเอาไว้ หรือ
ไม่ได้สอบถาม – ปรึกษาวิศวกรผู้ออกแบบตอนขึ้นโครงสร้าง มันก็
อาจจะพังลงมาได้
 
'''แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วิศวกรผู้ออกแบบ''' ....เมื่อออแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็น่าจะถามตัวเองได้ด้วยว่า หากผู้รับเหมาเขามาถามว่าสร้าง
อย่างไหนก่อนอย่างไหนหลัง ก็น่าจะรู้ว่าจะตอบเขาอย่างไร !!!!
 
== ตะเฆ่สัน ตะเฆ่ราง คืออะไร ==
 
'''ตะเฆ่สัน และ ตะเฆ่ราง''' คือสันของหลังคาที่เอียง ๆ (ที่ไม่เอียงอยู่
เป็นแนวระนาบ เขาเรียกว่า สันหลังคา)
 
'''ตะเฆ่สัน''' จะเห็นเป็นสันขึ้นมา เมื่อไรที่เล็งเห็นตะเฆ่สันไม่ตรง
เป็นเส้นตรงแสดงว่าหลังคาเริ่มจะมีปัญหา ต้องรีบแก้ไข เพราะ
หลังคาอาจกำลังพังลงมา ตะเฆ่ราง จะเห็นเป็นรางหุบลงไป
ปัญหาของตะเฆ่รางก็คือจะเป็นจุดที่หลังคาคุณอาจรั่วได้ อาจ
เพราะตะเฆ่บิด หรือรางน้ำในตะเฆ่บิดหรืออุดตัน หากฝ้าเพดาน
คุณมีน้ำซึมออกมา สิ่งแรกที่น่าตรวจดูคือตะเฆ่รางนี่แหละ
บ้านใดไม่มีตะเฆ่เลย โอกาสที่หลังคาจะรั่วมีน้อย ...แต่คนเขาไม่
นิยมกัน
===== ก่อสร้างอย่างไร ไม่ให้รบกวนชาวบ้าน =====
 
ก่อสร้างในที่ที่ติดกับอาคารข้างเคียง ถึงอย่างไรก็ต้องรบกวน
ชาวบ้านเขาวันยังค่ำ ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ทางแก้ไขอย่างเดียวก็คือ
พยายามทำให้เขาเดือดร้อนน้อยที่สุด ทั้งทางกายและทางใจ ต้อง
เอาใจเขามาใส่ใจเราเสมอๆ อย่าเห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว หาวิธีการทุก
ทาง – ทุกเวลา ....เพราะเกิดเรื่องแล้วจบยาก
จะสร้างบ้าน (มีที่ดินแล้ว) สักหลัง (แต่ไม่รู้จักใครเลย)
 
* '''เริ่มต้นที่ไหนดี'''
หากคุณมีที่ดินแล้วก็อยากสร้างบ้านสักหลัง แต่คุณไม่เคยรู้จักใคร
เลย และก็ไม่มีเงินเพียงพอ ที่จะเสี่ยงต่อความเสียหาย หรือ
งบประมาณบานปลายคุณอาจดำเนินการดังนี้
 
'''1. ติดต่อบริษัทที่รับสร้างบ้าน'''สำเร็จตามแบบของเขา (เปิดหา
ได้ตามโฆษณาทั่วไป ตรวจสอบดูผลงานเขาจากสถานที่จริง (หาก
เขาไม่มีตัวอย่างให้ดูก็ไปเลือกบริษัทอื่น) ดูแบบที่เขามีอยู่ใน
บริษัทพร้อมงบประมาณง่าเป็นที่พอใจของคุณหรือไม่ ...หาก
พอใจก็ติดต่อตกลงกับเขาเพื่อดำเนินการเลย
 
'''2. หากไม่พอใจในขั้นตอนแรก''' (ข้อแรก) แต่ก็ไม่รู้จัก
สถาปนิกเลยสึกคนลองติดต่อกับสมาคมสถาปนิกฯ เพื่อให้เขา
แนะนำสถาปนิกให้คุณสักคน เมื่อคุณเจอสถาปนิกแล้วก็ตกลงใน
การว่าจ้างวิชาชีพกันต่อไป (คุณจะต้องเสียค่าออกแบบ หากคุณจะ
ดูแบบ ซึ่งต่างกับขอแรกที่คุณดูแบบได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียกะตังค์)
หากทั้งสองขั้นตอนนี้ยังไม่เป็นที่พอใจคุณอีก แนะนำให้
ลองตะเวนดูบ้าที่คุณพอใจ แล้วเคาะประตูบ้านนั้นว่า เข้าได้บ้าน
ที่คุณพอใจนั้นมาอย่างไร (หากเขาไม่ไล่คุณออกมาจากบ้านก่อน
ก็ทำตามที่เขาบอกครับ)
 
'''อะไรเอ่ย...ที่เวลาก่อสร้างไม่น่าประหยัดเลย'''
สิ่งที่ไม่น่าประหยัดในการก่อสร้างทั้งหลายทั้งมวลก็คือ “รากฐาน”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานคร เพราะเมื่อเกิดปัญหาขึ้น
แล้ว จะเป็นจุดที่แก้ไขยากที่สุด แก้ไขนานที่สุด และแพงที่สุด
(นอกจากจะไม่น่าประหยัดแล้ว เวลาก่อสร้างน่าจะ Serious มากๆ
ด้วย แต่คนมักจะมองข้าม อาจเพราะถือว่า ไม่มีใครเห็นก็ได้
ซื้อหรือจ้างเข้ามาทำเฟอร์นิเจอร์ในครัว '''น่าตรวจเช็ค
อะไรบ้าง'''
 
'''ยุคนี้สมัยนี้''' ครัวในบ้านไทยๆ แบบเราเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะ
ครัวแบบฝรั่งที่เคาน์เตอร์มีพัดลมดูดอากาศ มีอ่างล้างจาน มีเตา
แกส ฯลฯ เป็นที่นิยมอย่างยิ่ง แถมราที่ท่านไปตรวจเช็คดูตามที่
เขาจัดแสดงงานมหกรรมต่างๆ ก็แตกต่างกันมาก (ประมาณ 300 % )
จนท่านเองก็ชักจะงงว่า จะซื้อแบบไหนดี เพราะผู้ขายจะพยายาม
โฆษณาสรรพคุณจนทานงงมีข้อแนะนำพื้นฐานในการเลือกซื้อ
อยู่ 4 – 5 ข้อ เผื่ออาจช่วยท่านได้บ้างครับ
 
# '''วัสดุที่บุผิวทนความร้อน'''หรือไม่ (เวลาใช้จะได้ไม่ลอกไม่ล่อน)
# '''วัสดุที่บุผิวทนความร้อน'''เพียงไร (คงไม่ต้องถึงกับเป็นวันดุกันไฟหรอกครับ)
# '''ลิ้นชักหรือบานตู้'''ลื่น – แข็งแรงแค่ไหน (เวลาทานใส่กะปิน้ำปลาแล้ว ลิ้นชักพื้นตู้อาจจะแอ่นจนท่านเลื่อนลิ้นชัก และเปิดตู้ไม่ได้)
# '''วัสดุที่ประกอบ'''อมความชื้นเพียงไร (อมความชื้นมาก ครัวท่านจะเหม็น)
# '''การเดินท่อน้ำ – ท่อไฟ''' เรียบร้อยและซ่อมแซมได้หรือไม่(ระวังไฟช๊อต ท่อน้ำตัน หรือพัดลมดูดอากาศไม่ทำงานภายหลัง)
 
===== ปลั๊ก – สวิตช์ไฟในห้องน่าจะสูงสักเท่าไร =====
โดยทั่วไปในอาคารพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรืออาคารสาธารณะ
จะมีระดับวางปลั๊กและสวิตช์ไฟไว้โดยมาตรฐาน 2 ระดับคือ
1. ระดับ + 0.30 หรือ 30 เซนติเมตรจากพื้นห้อง ซึ่งจะเป็น
ระดับปลั๊กไฟที่ใช้สำหรับอุปการณ์ไฟฟ้าหนักเช่นพัดลม เครื่องดูด
ฝุ่น และเพื่อเดินสายซ่อนต่อเข้าเฟอร์นิเจอร์ตั้งโต๊ะ เช่นเครื่อง
เสียง โทรทัศน์ – วิทยุ โคมตั้งโต๊ะ เป็นต้น
2. ระดับ + 1.10 หรือ 110 เซนติเมตรจากพื้นห้องง เป็นระดับ
สวิตช์ไฟฟ้าที่สะดวก ใช้สำหรับคนทุกขนาดความสูง ทั้งเด็กทั้ง
ผู้ใหญ่เป็นระดับของปลั๊กอีกระดับหนึ่งด้วย ปลั๊กจุดนี้จะใช้สำหรับ
อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ใหญ่นัก และสูง 1.10 เมตร เพื่อไม่ให้มี
เฟอร์นิเจอร์มาบัง (เฟอร์นิเจอร์ทั่วไปยกเว้นตู้สูง เช่นตู้ทีวี
เคาน์เตอร์ โต๊ะทำงาน ฯลฯจะสูงประมาณ 60 -100 เซนติเมตร)
วิธีง่ายๆ ว่าโถส้วมของท่านนั้น ช่าง'''ติดตั้งสุขภัณฑ์ติดตั้งได้
ระดับหรือไม่'''
 
'''โถส้วมที่กำลังจะกล่าวถึงนี้คือ'''โถส้วมชักโครกแบบมีแทงค์น้ำอยู่
ด้านหลังในกรณีที่ช่างติดตั้งสุขภัณฑ์ของท่านติดตั้งแล้วไม่ได้
ระดับ ไม่ว่าจะเป็นเอียงหน้าหรือเอียงหลัง เวลาท่านยกแผงที่รอง
นั่งขึ้นพิงกับแทงค์น้ำชักโครก ก็มักจะกระดกกลับมาทำให้กระทำ
ความสะอาดทำได้ยาก และหาเอียงมาก ๆ ท่านก็จะนั่งไม่สุขารมณ์
คอห่านที่เก็บกักน้ำกันกลิ่นย้อนกลับก็ทำงานได้ไม่เต็ม
ประสิทธิภาพ....วิธีง่าย ๆขั้นต้นก่อนการตรวจรับงานก็คือ '''“ยกฝา
รองนั่งขึ้นพิงแทงค์น้ำ”''' และเอามือตบลงที่แทงค์น้ำ(ตบขนาด
พอดี ๆ ไม่ต้องถึงหนักจนโถส้วมร้าว) หากฝานั่งไม่กระดกกลับมาถือ
ว่าโถส้วมของท่านไม่เอียงหน้า แล้วเอาน้ำใส่ลงที่คอห่าน ดูด้วยตา
ว่าระดับน้ำได้ระนาบเดียวกับพื้นห้องหรือเปล่า การดูระดับน้ำ
ค่อนข้างยากเพราะส่วนโค้งของโถส้วมจะหลอกตา)
ดวงไฟหน้ากระจกเงา เขามีไว้ส่องหน้าท่าน...ไม่ใช่ส่อง
กระจก
 
'''กระจกเงาเยอะแยะบานไม่ว่าจะติดตั้งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งหรือใน
ห้องน้ำ''' จะว่างตำแหน่งดวงโคมผิดพลาดหรือใช้ดวงโคมผิด
ประเภท ทำให้แสงจากดวงโคมแทนที่จะส่องกระทบเข้าหน้า
แล้ววิ่งกลับไปปรากฏภาพในกระจก กลับส่องเข้าหากระจกแล้วคอย
นำแสงสะท้อนจากกระจกออกมาสู่หน้าท่าน แล้วค่อยสะท้อน
กลับไปที่กระจกให้ปรากฏภาพอีกครั้ง จึงทำให้ภาพใบหน้าของ
ท่านปรากฏไม่ค่อยแจ่มชัด ส่องกระจกนานๆ ก็เกิดอาการปวดลูกกะ
ตา
 
'''ลองตรวจเช็คดู'''ว่าบ้านท่านเป็นอย่างนี้หรือเปล่า หากเป็นก็
เปลี่ยนตำแหน่งดวงโคมเสีย (อาจจะยกขึ้นสูงกว่ากระจกสักคืบ
หรือวางเอียงออกจากกระจก) หรือ เปลี่ยนชนิดของดวงโคมมาเป็น
สองออกด้านเดียวสู่หน้าของท่าน ไม่ใช่ดวงโคมที่ส่องแสงออกทุก
ทิศทุกทาง
 
== ออกแบบประตูหน้าต่างอย่าลืมเตรียม “ม่าน เหล็กดัด มุ้งลวด” ==
 
ไม่ค่อยแน่ใจว่าอยู่เมืองไทยแล้วมันเป็นอย่างไร จะมีบ้านกับเขา
สกหลังแม้มีรั้วรอบขอบชิดแล้ว ก็ต้องมีอะไรต่ออะไรป้องกันอีกตั้ง
หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านที่ป้องกันสายตาสอดรู้ มุ้งลวดที่ไว้
ป้องกันยุง แถมเหล็กดัดที่สำหรับกันขโมยแบะกันเด็กไม่ให้ออก
จากบ้านเวลาเกิดไฟไหม้บ้าน ทำให้การออกแบบกรอบประตู
หน้าต่างจะต้องคิดถึงสิ่งเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า ว่าจะติดตั้งได้อย่างไร
เช่น
 
''- มุ้งลวดคุณเป็นมุ้งลวดชนิดใด'' (แบบบานเลื่อนหรือบาน
เปิด) จะติดตั้งอย่างไร เปิดไปทางใด หากเป็นบานเลื่อน
จะเลื่อนเข้าหรือเลื่อนออก จะใช้กรอบประตูหน้าต่างเป็น
รางหรือมีรางพิเศษส่วนตัว
 
''- ม่านคุณเป็นแบบไหน'' ติดสูงเท่าไร ชายม่านอยู่ระดับ
ไหน แขวนไว้ผนังหรือฝ้าเพดาน หรือกรอบประตูหน้าต่าง
มีที่บังรางม่านหรือไม่หากมีเป็นอะไรติดตั้งอย่างไร
 
''- เหล็กดัดหน้าตาเป็นอย่างไร'' เปิดออกได้หรือไม่ ติดตั้งกับ
อะไร ฯลฯ หลังจากทราบข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ก้ออกแบบ
หรือจัดเตรียมกรอบบาน – วงกบ ประตูหน้าต่างให้
เหมาะสมกับข้อมูลนั้น...จึงเริ่มก่อสร้างครับ
 
'''ประตูสู่ด้านนอกอาคารจะต้องเปิดออก''' และวงกบวางอยู่บน
พื้นนอกเสมอ
 
'''ประตูอาคารที่เปิดออกสู่นอกอาคาร'''และมีฝนสาดเข้ามาถึงจะต้อง
เป็นประตูที่เปิดออก และบานประตูจะต้องอยู่ต่ำกว่าระดับพื้น
ภายในเสมอ (ขาวงกบจะวางอยู่บนระดับพื้นภายนอก) หากมิ
เช่นนั้นเวลาฝนตก น้ำฝน (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) จะไหลเขา
สู่อาคาร แถมยังช่วยในกรณีไฟไหม้ได้บ้าง เพราะเวลาไฟไหม้คนที่
หนีออกจากอาคารมักตกใจและพยายามดันประตูออก (ไม่พยายาม
เปิดประตูเข้า)
 
* ''อย่าทำประตูติดบันได''
เดี๋ยวศีรษะท่านจะต้องลงบันได
แทนเท้า
 
'''ข้อนี้หมายถึงการเปิดประตูแล้วก็ลงบันไดขั้นแรก'''ไปเลย โดยไม่มี
ชานพักหรือระยะให้พักเท้าเผื่อไว้บ้าง อันตรายมาก ๆ ทั้งตอนขึ้น
– ตอนลง และตอนเดินสวนกันที่บันได ตอนขึ้นท่านต้องเอื้อม
มือไปเปิดประตูก่อนแล้วก็ถอยลงบันไดเพื่อให้มีระยะเปิดของ
ประตูแล้วจึงขึ้นกลับไปใหม่ หรือหากสวนทางกันคนหนึ่งกำลัง
เดินขึ้น – อีกคนหนึ่งเปิดประตูออก บานประตูก็กระแทกคน
ข้างล่างให้ตกกระไดได้หรือตอนลงที่เปิดประตูแล้วก้าวโดยไม่รู้ว่า
เป็นบันไดก็อันตรายเช่นเดียวกัน ...ระวัง..ระวัง..ระวัง
 
* '''สีกระเบื้องหลังคาคุณลอก (เป็นขี้กลาก) จะแก้ไขได้อย่างไร'''
กระเบื้องมุงหลังคาบางชนิด – บางยี่ห้อ – บางรุ่น คุณอาจจะเป็น
คนโชคดีในไม่กี่คนที่ดันไปซื้อมามุงหลังคาบ้านคุณ มีทางแก้อยู่
2 แนวทางคือ
 
'''กระเบื้อง'''มุงหลังคา''บางชนิด – บางยี่ห้อ – บางรุ่น'' คุณอาจจะเป็น
คนโชคดีในไม่กี่คนที่ดันไปซื้อมามุงหลังคาบ้านคุณ มีทางแก้อยู่
2 แนวทางคือ
 
# เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาใหม่ทั้งผืน (ไม่น่าเปลี่ยนเฉพาะบางแผ่น เพราะโรคขี้กลากอาจจะหาไป แต่ทิ้งโรคเอนไว้แทนที่)
# ใช้สีพิเศษสำหรับทากระเบื้องทาทับลงไป (ติดตอร้านขายสีหรือบริษัทขายสีได้ แต่ต้องแน่ใจว่าเป็นสีชนิดใช้ทากระเบื้องหลังคาจริงๆ ) สีนี้ราคาค่อนข้างแพง จนราคาต่อตารางเมตรเกือบจะเท่ากับตัวกระเบื้องทีเดียว น่าจะใช้ในกรณีที่การเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาทำได้ยากจริงๆ เท่านั้น
 
== ความรู้เผยแพร่เพื่อประชาชน ==
* ''[https://th.wikibooks.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99_%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99 สถาปนิกสยาม กรมโยธาธิการและการผังเมือง]''
* [https://th.wikibooks.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_1_%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B ดูส่วนที่ 1]
 
{{โครง}}