ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟิสิกส์อะตอม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต: เก็บกวาด
 
บรรทัดที่ 6:
 
หลอดรังสีแคโทเป็นอุปกรณืทีมีส่วนประกอบที่ใช้ในการหาค่า 2 ส่วนคือ
1.# ส่วนเร่งอิเล็กตรอน เป็นส่วนที่ใช้ความต่างศักย์เร่งประจุอิเล็กตรอน
2.# ส่วนกรองความเร็ว ซึ่งมีสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า
 
=== ส่วนเร่งอิเล็กตรอน ===
จากกฎอนุรักษ์พลังงานจึงทำให้พลังงานที่ต้นทางเท่ากับพลังงานที่ปลายทาง
 
พลังงานที่A = พลังงานที่C <br>
 
<br>
 
แทนค่า <br>
 
 
<math>
\begin{align}
เส้น 28 ⟶ 31:
 
=== ส่วนกรองความเร็ว:หาอัตราเร็วของอิเล็กตรอน ===
เมื่ออิเล็กตรอนวิ่งผ่านสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้าเป็นเส้นตรงแสดงว่าแรงของสนามแม่เหล็กเท่ากับสนามไฟฟ้าจึงหักล้างกันพอดีศูนย์<br>
 
 
<math>
\begin{align}
เส้น 37 ⟶ 42:
\end{align}
</math>
 
<br>
 
ค่าของ <math>E</math> และ <math>B</math> เป็นค่าของสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กที่จ่ายเข้าไปจึงทำให้สามารถหาความเร็วของอิเล็กตรอนได้
 
=== ส่วนกรองความเร็ว:หาอัตราส่วนประจุต่อมวล<math>(\frac{q}{m})</math> ===
ต่อไปเป็นการหาอัตราส่วนประจุต่อมวล<math>(\frac{q}{m})</math> ของอิเล็กตรอนโดยตัดสนามไฟฟ้าออกจะทำให้เหลือเพียงแต่สนามแม่เหล็กแต่เมื่ออิเล็กตรอนพุ่งเข้าไปจะทำให้มีเส้นทางโค้งตามกฎมือขวา ทำให้แรงที่กระทำกับเส้นแรงแม่เหล็กมีค่าเท่ากับแรงสู่ศูนย์กลาง<br>
 
 
<math>
\begin{align}
เส้น 53 ⟶ 61:
 
== การทดลองหยดน้ำมันของมิลลิแกน ==
การทดลองนี้แสดงให้เห็นถึงค่าประจุต่อมวลของอิเล็กตรอนโดยใช้หยดน้ำมันลอยนิ่งในสนามซึ่งทำให้แรงลัพธ์เท่ากับศูนย์<br>
 
 
<math>\begin{align}
\sum F & = 0 \\
เส้น 60 ⟶ 70:
q & = \frac{mg}{E}; E=\frac{V}{d} \\
q & = \frac{mg}{\frac{V}{d}} \\
\end{align}</math><br>
 
<math>q = \frac{mgd}{V}</math>
 
แต่ <math>q</math> เป็นผลรวมของพลังงานจากอิเล็กตรอนหลายๆ ตัวรวมกัน เพราะฉะนั้น พลังงานของอิเล็กตรอนตัวเดียวจึงเท่ากับ<br>
<math>q = \frac{mgd}{V}</math>
แต่ <math>q</math> เป็นผลรวมของพลังงานจากอิเล็กตรอนหลายๆ ตัวรวมกัน เพราะฉะนั้น พลังงานของอิเล็กตรอนตัวเดียวจึงเท่ากับ<br>
 
 
<math>\begin{align}
q & = ne \\
เส้น 70 ⟶ 84:
== การแผ่รังสีของวัตถุดำและค่านิจของแพลงค์ ==
วัตถุสามารถแผ่คลื่นรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ด้วยตัวเอง แต่จะมีความเข้มแสงต่างกันไปตามอุณหภูมิของวัตถุนั้นๆ โดยที่อุณหภูมิสูงวัตถุจะมีการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงของแสงมาก จึงเห็นวัตถุเหล่านี้เปล่งแสงได้ (ลองนึกภาพของหลอดไฟตามไป) แต่วัตถุที่มีอุณหภูมิต่ำจะมีการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่อยู่ในย่านของแสงน้อยมาก เราจึงไม่เห็นแสงเปล่งออกมา วัตถุที่แผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้เราเรียกว่า "วัตถุดำ" (Black Body)
แพลงค์ได้จำลองการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของวัตถุดำ โดยให้วัตถุดำมีอะตอมคู่อยู่มากมาย ซึ่งอะตอมคู่จะสั่นให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมา และเมื่ออะตอมมีการสั่นด้วยความถี่ที่มากขึ้น พลังงานที่ปล่อยออกมาก็ยิ่งมากขึ้นตามด้วย และถ้ายิ่งมีอะตอมมาก พลังงานก็จะมากตามเช่นกัน<br>
 
<br>
 
<math>E = nhf</math><br>
<br>
 
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==