การเตรียมตัวศึกษาต่อต่างประเทศ/ขั้นตอนการสมัครสอบ
ขั้นตอนการสมัครสอบ
หาข้อมูล
แก้ไขหาข้อมูลให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้
- หาข้อมูลของมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนวิชาที่เราต้องการ
- หาข้อมูลของเมืองและประเทศ ว่าน่าอยู่เหมาะกับเราหรือเปล่า ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ สภาพความเป็นอยู่ ชอบอยู่ในเมืองหรือชอบชนบท...กรณีต้องการหารายได้เพิ่มช่วยเหลือตัวเองไปด้วยระหว่างศึกษาต่อ แนะนำว่าให้ไปเมืองที่ใหญ่หน่อย และมีร้านอาหารไทยเยอะหน่อย จะช่วยได้เยอะค่ะ
เตรียมการสมัครสอบ
แก้ไขในการสมัครเรียน ทางมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ต้องการดูผลว่าเรามีความสามารถเพียงพอที่จะสามารถไปเรียนได้หรือเปล่า ส่วนใหญ่จะมีสอบ
เตรียมเอกสาร
แก้ไขควรเตรียมเอกสารตั้งแต่เริ่มคิดที่จะสมัครเรียนต่อ เนื่องจากบางเอกสารอาจจะต้องใช้เวลานาน(ถึงนานมาก ในบางที) ยังไงก็ควรขอเอกสารไว้กับตัวก่อน ไม่จำเป็นต้องคิดว่า สอบTOEFL ผ่านแล้วค่อยขอ หรือว่าหามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้แล้วค่อยขอ โดยเอกสารหลักๆที่ต้องมี
- ทรานสคริปต์ (transcript) เป็นใบผลการเรียนจากทางมหาวิทยาลัย ฉบับทางการ ใส่ซองมหาวิทยาลัยและปิดผนึกตรามหาวิทยาลัยที่หน้าซอง ขอได้จากสำนักทะเบียน
- จดหมายแนะนำ (letters of recommendations) จดหมายแนะนำจากทางอาจารย์หรือหัวหน้างาน อย่างน้อย 3 ฉบับ (บางที่เอา 2) ก่อนจะไปขออาจารย์ ควรจะรู้ให้แน่ก่อนว่าอยากจะเรียนอะไร เวลาอาจารย์ถามจะได้ตอบถูก
- เอกสารรับรองทางการเงิน (financial statement) เอกสารรับรองจากทางธนาคารว่าเรามีเงินเพียงพอที่จะเรียนต่อได้
- ___ (statement of purpose) เป็นจดหมาย 1 หน้า (หรือมากกว่า แต่ควรเขียนไม่ยาวมาก) เป็นจดหมายที่เราเขียนให้แก่ทางมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับเหตุผลที่ว่า ทำไมเราถึงเลือกมาเรียนที่นี่ (เช่นเดียวกับที่ว่า เหตุผลทำไมเค้าถึงรับเรา)
- ในสาย MBA มักจะมีคำถาม 2-5 ข้อให้เราเขียนตอบ เกี่ยวกับการสมัครเข้าเรียน
- บางสาขาวิชาต้องการให้เราเขียน เรซูเม (resume)
- อื่นๆ อาจจะเป็นประกาศนียบัตรต่างๆ ที่เราได้มาและเกี่ยวข้องกับที่เราจะสมัคร
เดดไลน์
แก้ไขเดดไลน์ (deadline) ของการสมัครแต่ละมหาวิทยาลัยจะแตกต่างกัน และแต่ละคณะก็จะแตกต่างกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคือวันไหน และจำไว้ว่า ไม่ควรจะรอถึงวันใกล้เดดไลน์แล้วค่อยส่งเอกสาร เอกสารต่างๆ ควรจะส่งล่วงหน้า
ขั้นตอนการสมัครสอบ
แก้ไขการสมัครสอบก็สมัครได้ทันที ไม่ต้องรอให้สอบภาษาอังกฤษผ่าน เพราะอาจจะทำให้ช้าเกินไป หลังจากเลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัครได้ อาจจะเลือก มากกว่า 1 มหาวิทยาลัย และทำการสมัคร
- กรอกเอกสารการสมัครของทางมหาวิทยาลัย หลายๆ ที่สามารถกรอกผ่านเว็บไซต์ได้ทันที หรือโหลดไฟล์จากเว็บกรอกและส่งกลับไป
- ส่งเอกสารตามไป หลายมหาวิทยาลัยต้องการให้ส่งเอกสารบางส่วนเข้าคณะ และเอกสารบางส่วนไปที่ grad college
- พยายามเช็คอีเมลบ่อยๆ หรือเช็คจากเว็บไซต์ว่าเอกสารเราไปถึง ถ้ายังไม่ถึงให้อีเมลไปถามหรือโทรไปถาม
- ถ้าทางมหาวิทยาลัยตอบรับ จะส่งอีเมลหรือโทรศัพท์มาบอกก่อน และจะส่งจดหมายตามมา โดยเราควรจะตอบรับหรือตอบปฏิเสธมหาวิทยาลัยนั้นตามมารยาท (และกรณีเดียวกัน ถ้าเราปฏิเสธจะทำให้โอกาสแก่ผู้อื่น)
- สำหรับสหรัฐอเมริกา เมื่อทางมหาวิทยาลัยตอบรับ จะส่งเอกสารที่เรียกว่า I-20 (ไอ-ทเวนตี) มาให้สำหรับในการขอวีซา
ขั้นตอนหลังจากได้รับการตอบรับ
แก้ไขส่วนใหญ่จะเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง
- ในสหรัฐอเมริกา เมื่อได้รับจดหมายตอบรับจะได้ I-20 เพื่อนำไปขอวีซ่า ในกรุงเทพ ระยะเวลาในการขอวีซ่าค่อนข้างนาน อาจจะนานถึง 2 เดือนได้ ควรขอแต่เนิ่นๆ ถ้าเป็นในเชียงใหม่ใช้เวลาไม่นานไม่เกิน 1-2 อาทิตย์ แต่ขอได้เฉพาะบุคคลที่มีทะเบียนบ้านในภาคเหนือ
- ซื้อตั๋วเครื่องบิน เตรียมตัวว่าจะไปถึงวันไหน อาจจะไปถึงก่อนซัก 1-2 อาทิตย์เพื่อปรับตัวก่อนเริ่มเรียน หรือถ้ากะจะไปเที่ยวก่อนอาจจะไปก่อนหน้านั้นได้
- ในสหรัฐอเมริกาไม่สามารถเข้าประเทศได้ก่อน 60 วัน (60 วันพอดีไม่ใช่ 2 เดือน) จากวันที่เขียนใน I-20 ถ้าเข้าประเทศก่อนหน้านั้นมีสิทธิโดนส่งกลับสูง
- ตรวจสุขภาพ มหาวิทยาลัยหลายที่จะส่งเอกสารให้เราตรวจสุขภาพ ตามใบที่ทางมหาวิทยาลัยส่งมาให้
- เตรียมของให้พร้อม ดูที่ สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนไปเมืองนอก
- ตัดแว่น ตรวจฟัน ตัดคอนแทค ให้พร้อม
- กิน เที่ยว ให้สนุก ในประเทศไทย ...
- ...
เว็บลิงก์อื่น
แก้ไข- เทคนิคการอ่านเร็วแบบ Scanning และ Skimming
- เทคนิคการเขียน statement of purpose ให้ได้เรียนตามที่หวัง
- การเตรียมตัวสมัครสอบที่ สวีเดน
- เรียนต่อต่างประเทศ studysqr.com
หน้าหรือส่วนนี้คือฉบับร่างหรือโครงร่างที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา คุณสามารถช่วยเหลือในการพัฒนางานเขียนหรือสอบถามเพื่อขอความช่วยเหลือในสภากาแฟได้ |